ไขทุกข้อสงสัยคาใจ! เคลียร์ชัดทุกคำตอบ Air Compressor มีกี่ประเภท?

Air Compressor หรือเครื่องปั๊มลม มีหน้าที่ในการอัดอากาศให้เป็นลมอัดที่มีแรงดันสูงตามที่ต้องการเพื่อนำไปใช้ประโยชน์และประยุกต์ใช้ได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทั้งนี้หน้าที่หลักของ Air Compressor คือ อัดอากาศให้เป็นแรงดันสูงตามที่ต้องการ โดยอาศัยหลักการของการทำงานแบบแทนที (Positive Displacement) ซึ่งอากาศจะถูกดูดเข้ามาและบีบอัดให้มีปริมาตรที่เล็กลง ทำให้ได้ลมอัดที่แรงดันสูงขึ้น โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องประเภทของ Air Compressor และความเหมาะสมกับการใช้งาน

ประเภทของ Air Compressor

เครื่องปั๊มลม (Air Compressor) มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 ประเภท โดยสามารถแบ่งตามวิธีการทำงานและการใช้งานได้ดังต่อไปนี้

1. ปั๊มลมแบบสกรู (Screw Air Compressor) เป็นประเภทที่มีการผลิตลมที่มีคุณภาพสูง จากการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการหมุนขับเคลื่อนสกรูเพื่อให้เกิดแรงอัดอากาศ จึงมีอัตราในการจ่ายลมได้สูงและค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในภาคอุตสาหกรรม
   
   
2. ปั๊มลมแบบลูกสูบ (Piston Air Compressor) เป็นปั๊มลมขนาดเล็กสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก เป็นประเภทที่มีการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเช่นเดียวกัน เพื่อส่งถ่ายกลไกให้ลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้นลง จนเกิดเป็นแรงดูดและแรงอัดอากาศภายในกระบอกสูบ ซึ่งแรงกดอัดสามารถกำหนดได้ตามจำนวนขั้นของการอัด เหมาะกับการใช้งานแบบทั่วไป ราคาไม่สูง และจัดว่าเป็นปั๊มลมได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้
   
   
3. ปั๊มลมแบบไดอะเฟรม (Diaphargm Air Compressor) ซึ่งเป็นเครื่องปั๊มลมชนิดที่มีการทำงานแบบอัดสูบลมโดยมีแผ่นไดอะแฟรมเป็นตัวสกัดกั้นอากาศไม่ให้สัมผัสกับลูกสูบ ลมที่ถูกกดอัดจะมีความสะอาดไร้สารปนเปื้อนจากน้ำมันหล่อลื่นหรือส่วนต่าง ๆ ที่เป็นโลหะจากกระบอกอัดลมได้ เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมเฉพาะด้านที่มีความต้องการความปลอดภัยต่อการเจือปนหรือมีการควบคุมมาตรฐานความสะอาดในการผลิตแบบขั้นสุด
   
   
4. ปั๊มลมแบบใบพัดเลื่อน ( Slide Vane Rotary Air Compressor) จะมีหลักการทำงานแบบเครื่องหมุนเรียบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างอากาศด้วยแรงดันที่คงที่ จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมที่ต้องการควบคุมแรงลมที่มีความเสถียรและมีความคงที่สูง เครื่องปั๊มประเภทนี้ไม่มีวาล์วที่ใช้ในการตั้งค่าปรับระดับ หรือเปิดปิดได้ อาจทำให้ตัวปั๊มมีความไวต่ออุณหภูมิสูง ๆ ได้
   
   
5. ปั๊มลมแบบใบพัดหมุน (Roots Air Compressor) ที่จะมีการทำงานของใบพัดหมุนถึง 2 ตัว โดยหมุนใบพัดเพื่อให้ลมถูกดูดเข้าไปและปล่อยออกมา อากาศที่มีการส่งผ่านจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาตรจากการถูกกดอัดใด ๆ แต่ในกระบวนการอัดตัวของอากาศตอนอัดตัวเข้าไปเก็บในถังลมอาจจะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นได้จึงจำเป็นต้องมีการระบายความร้อนเข้ามาช่วยให้เครื่องปั๊มทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
   
   
6. ปั๊มลมแบบกังหัน (Radial And Axial Flow Air Compressor) เป็นปั๊มลมที่มีอัตราการจ่ายลมสูงที่สุด เนื่องจากมีการดูดอากาศจากใบพัดกังหันและมีแกนหมุนที่มีความเร็วสูงจึงสามารถส่งถ่ายอัดลมไปอีกด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง เหมาะกับอุตสาหกรรมที่จะต้องมีการใช้แรงลมสูง ๆ

จะเห็นได้ว่าเครื่องปั๊มลมแต่ละประเภทจะมีกลไกการทำงานที่เฉพาะตัว และมีข้อดีที่เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายรูปแบบ ดังนั้นการเลือกใช้งาน Air Compressor ควรพิจารณาถึงความต้องการและประเภทของงานที่ต้องการนำไปใช้งาน เพื่อให้สามารถเลือกใช้เครื่องปั๊มได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ความสำคัญและความจำเป็นของ Air Compressor

เครื่องอัดอากาศ (Air Compressor) ถือเป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็นและมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการใช้งานรายวันในชีวิตประจำวัน รวมถึงมีความจำเป็นในงานเฉพาะด้านในเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งหลากหลายอุตสาหกรรมมีการเลือกใช้งาน Air Compressor ที่หลากหลายด้าน ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของงาน สถานที่ และความเหมาะสมของเนื้องาน โดยสามารถจำแนกประโยชน์การใช้งานหน้าที่หลัก ๆ ของ Air Compressor ได้ดังต่อไปนี้

1. เติมลมยาง เครื่อง Air Compressor มักถูกนำมาใช้เป็นเครื่องเติมลมให้ยางรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือจักรยานโดยเฉพาะในภาคครัวเรือนหรือเป็นการใช้งานที่ไม่ได้มีความเฉพาะเจาะจงมากนัก
   
   
2. เครื่องมือช่าง สำหรับงานช่างบางงานก็มีความจำเป็นต้องใช้ Air Compressor เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกระบอกยิงตะปู, เครื่องฉีดสี หรือเครื่องมืออื่น ๆ ที่ต้องใช้แรงดันลมเข้ามาเกี่ยวข้องทุกชนิด
   
   
3. การผลิต เครื่องจักรในโรงงานการผลิตหลายที่มีความจำเป็นต้องใช้ Air Compressor เข้ามาเป็นแหล่งพลังงานหลักที่ใช้ในการควบคุมการทำงานของเครื่องจักรเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนและดำเนินกระบวนการต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบ
   
   
4. ระบบประปา มีการนำ Air Compressor มาใช้ในการปั๊มน้ำ และในระบบประปาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับของเหลวได้เป็นอย่างดี
   
   
5. งานแปรรูป หลายอุตสาหกรรมนิยมใช้ Air Compressor ในการแปรรูปวัตถุดิบ เช่น การฉีดพลาสติก, การเป่าแก้ว เป็นต้น
   
   
6. การเก็บรักษา ตัว Air Compressor นั้นมีบทบาทที่สำคัญในการเก็บและขนส่งสินค้าที่ต้องการการกดอัดของอากาศเพื่อใช้ในการคงสภาพของสินค้าให้ยาวนานมากขึ้น
   
   
7. ระบบ HVAC ใช้ Air Compressor ในการควบคุมการไหลของสารทำความเย็นในระบบการผลิตของเครื่องจักรต่าง ๆ รวมถึงระบบทำความเย็นของส่วนผลิต
   
   
8. การตรวจสอบและทดสอบ หลายครั้ง Air Compressor ถูกนำมาใช้ในการทดสอบการรั่วซึม และการทดสอบแรงดันของอุปกรณ์ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม เพื่อหาจุดบกพร่องหรือความผิดปกติของอุปกรณ์บางอย่างได้

ดังนั้นเครื่องปั๊มลมหรือ Air Compressor จึงเป็นส่วนสำคัญที่ไม่สามารถหายไปได้ทั้งในการใช้งานประจำวันและในภาคอุตสาหกรรม การทราบประเภทและการใช้งานที่เหมาะสมจะช่วยให้เครื่องปั๊มสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บริษัท แม็คเอนเนอยี อีโวลูชั่น จำกัด เราเป็นบริษัทชั้นนำทางด้านของระบบทำความเย็น และเครื่องปั๊มลม Air Compressor ทุกชนิดที่มุ่งเน้นการให้บริการติดตั้ง และซ่อมบำรุงในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมทุกชนิด ด้วยคุณภาพและความรวดเร็ว เรามีทีมงานในการให้คำแนะนำและการปรึกษาเกี่ยวกับการติดตั้ง และปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานต่าง ๆ ที่ครอบคลุมครบวงจร หากมีความสนใจในการติดตั้งงานชิลเลอร์ หรืองานเครื่องปั๊มลมสนใจติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาเพิ่มเติมที่

บริษัท แม็คเอนเนอยี อีโวลูชั่น จำกัด

พร้อมให้บริการ ด้วยทีมงานคุณภาพ ประสบการณ์ยาวนาน
มาตรฐานสากล แล้วคุณจะได้รับความประทับใจกลับไป

Hotline: 02-509-3211 , 090-9839009
Email : admin@mcenergy-evo.com