เรื่องต้องรู้ก่อนติดตั้งโซล่าเซลล์

ข้อควรพิจารณาก่อการตัดสินใจติดตั้งโซล่าเซลล์

ติดตั้งโซลล่าเซลล์

ปัจจุบันนี้ค่าไฟฟ้านั้นขึ้นอยู่ตลอดจนไม่มีท่าทีที่จะลดลงเลย จนใครหลาย ๆ คนเริ่มหันไปหาทางออกในการติดตั้งโซล่าเซลล์เพื่อที่จะช่วยลดค่าไฟลง ซึ่งเหมาะกับบ้านที่ใช้ไฟฟ้าเยอะๆ อีกทั้งโซลล่าเซลล์ช่วยประหยัดการผลิตพลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย กระบวนการทำงานของ แผงโซล่าเซลล์นั้น จะทำหน้าที่เก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์ให้กลายเป็นพลังงานกระแสไฟฟ้า และ ทำการเก็บสำรองไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่ จากนั้นจะมีการเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าตรงให้เป็นกระแสไฟฟ้าสลับ ทำให้คุณสามารถนำกระแสไฟฟ้ามาใช้ได้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านทั่วไปได้

ก่อนที่จะคิดจะติดตั้งโซล่าเซลล์ต้องมีหลายส่งที่ควรรู้ เพราะการติดตั้งโซล่าเซลล์นั้นมีทั้งค่าใช้จ่าย และ ต้องติดตั้งเพื่อใช้เป็นระยะเวลาหลายสิบปี หากพิจารณาไม่ถี่ถ้วนพออาจจะทำให้การติดตั้งไม่คุ้มค่า วันนี้เราจะมาบอกสิ่งที่ควรรู้ก่อนการติดตั้งโซล่าเซลล์กัน

สิ่งที่ควรรู้ก่อนการติดตั้งโซล่าเซลล์

  1. สำรวจความพร้อมของพื้นที่
    การสำรวจพื้นที่บ้านจะทำให้คุณรู้เบื้อนต้นว่าจะสามารถติดตั้งโซล่าเซลล์ได้หรือไหม มาตราฐานของแผ่นโซล่าเซลล์จะมีขนาดอยู่ที่ 1x2 เมตร และ 1 แผ่น จะมีน้ำหนักประมาณ 22 กิโลกรัม ดังนั้น คุณควรทำการตรวจสอบหลังคาบ้าน และ วัสดุที่ใช้ปูหลังคา หากเกิดรอยแตก รอยร้าว รอยรั่ว หรือ ตรวจสอบดูแล้วว่าเป็นวัสดุที่ไม่แข็งแรง ไม่มั่นคง ควรทำการรีโนเวทใหม่ เพราะการติดโซล่าเซลล์บ้านเป็นการติดตั้งในระยะยาวหลายสิบปี หากไม่ตรวจสอบจุดนี้อาจจะเกิดผลกระทบจากการรับน้ำหนักเกินได้และทำให้หลังคาเสียหายได้


  2. ตรวจสอบความคุ้มค่าเมื่อติดตั้งโซล่าเซลล์
    ตรวจสอบการใช้ไฟภายในบ้าน ทำให้รู้ว่าในแต่ละเดือนคุณใช้กำลังไฟอยู่ที่เท่าไร และ ควรเลือกติดโซล่าเซลล์ขนาดเท่าไรจึงจะเหมาะสม เช่น หาก ค่าไฟเดือนนี้ 5,000 บาท ให้คุณทำการแบ่งค่าไฟออกเป็นตอนกลางวัน 70% และตอนกลางคืน 30% ดังนั้น ค่าไฟตอนกลางวันที่ใช้ไปจะอยู่ที่ 3,500 บาท และ เฉลี่ยค่าไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 4 บาทต่อหน่วย นำจำนวนค่าไฟตอนกลางวันทำการหารด้วยค่าไฟฟ้าต่อหน่วย จะได้ 3,500÷4= 875 หน่วย เอาเลขจำนวนหน่วยที่ได้ หารด้วยจำนวนวัน และจำนวนชั่วโมงที่มีแสงอาทิตย์เป็น (875÷30)÷9= 3.2 หน่วยต่อชั่วโมง ดังนั้น การติดตั้งโซล่าเซลล์ที่เหมาะสมคือ ขนาดที่ 3-5 กิโลวัตต์ (3KW) คำนวนง่ายๆแบบนี้นะครับ


  3. เลือกระบบโซล่าเซลล์ให้เข้ากับตัวบ้าน
    ระบบของโซล่าเซลล์หลักๆ จะมีด้วยกันอยู่ 2 ระบบ คือ ระบบออนกริด (On -grid) และ ระบบออฟกริด (Off -grid) โดยการทำงานของสองระบบนี้มีความแตกต่างกัน เช่น
    • ระบบออนกริด (On -grid) คือ ระบบ Solar Cell ที่ขนานกับการไฟฟ้า ไม่ว่าจะ MEA หรือ PEA ตามเขตพื้นที่ ล้วนต้องมีการขออนุญาตเชื่อมต่อกับโครงข่ายของการไฟฟ้าทั้งสิ้น ข้อดีคือ ราคาระบบไม่สูงเท่า Off-grid และสามารถผลิตไฟฟ้าในตอนกลางวันในช่วงที่มีแสง ทำให้ลดค่าไฟช่วงเช้าได้จำนวนมาก ส่วนช่วงเวลาที่หมดแสงแล้ว สามารถดึงไฟฟ้าจากการไฟฟ้ามาใช้ได้ปกติ

    • ระบบออฟกริด (Off -grid) คือ ระบบ solar cell ที่ไม่เชื่อมต่อกับการไฟฟ้า ส่วนไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่ และนำมาใช้งานเมื่อเปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยปริมาณความจุของแบตเตอรี่ (จำนวนลูกแบตเตอรี่) จะขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการใช้พลังงานของบ้านแต่ละหลัง เหมาะสำหรับติดตั้งในจุดที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงอย่างเช่น ที่นา ที่ไร่ สวน บนดอยและเกาะต่างๆ ในพื้นที่เหล่านี้มักมีการใช้ระบบปั๊มน้ำโซล่าเซลล์จึงเหมาะกับระบบออฟกริดนั่นเอง

    แต่หากเป็นบ้านพักอาศัยแนะนำระบบการติดโซล่าเซลล์บ้านที่นิยมมากที่สุด คือ จะเป็นระบบออนกริด ซึ่งเป็นระบบที่เหมาะสำหรับการติดตั้งกับสถานที่อยู่อาศัย และ ราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ทำให้หลายคนเลือกที่จะติดตั้งระบบนี้

  4. เลือกผู้ให้บริการที่มีความชำนาญ
    ควรเลือกผู้เชี่ยวชาญที่จะมาติดตั้งโซล่าเซลล์ที่บ้านของคุณ ที่มี ความเชี่ยวชาญ มีมาตรฐาน ราคาการติดตั้งที่เป็นธรรม และ การบริการหลังการขายที่มีความรับผิดชอบ เนื่องจากหลายคนหันมาสนใจติดโซล่าเซลล์บ้านมากขึ้น ทำให้ในตลาดมีผู้ให้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์ค่อนข้างเยอะ แต่คุณควรเลือกผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญ และมีความน่าเชื่อถือ เพราะหากเลือกผู้ให้บริการที่ไม่มีคุณภาพ หรือไม่เชี่ยวชาญจริงๆ จะทำให้เกิดปัญหาที่ตามมาได้ อย่าลืมว่านี่เป็นการลงทุนในระยะยาว ดังนั้น การเลือกผู้ให้บริการที่มีความชำนาญจริงๆ และได้รับมาตรฐานเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ


  5. รับประกันหลังการขาย
    ปัจจัยสำคัญในการเลือกติดตั้งโซล่าเซลล์เลยก็คือการรับประกันหลังการขาย ควรตรวจสอบการให้บริการหลังการขาย และ การรับประกันให้ถี่ถ้วน เพื่อเป็นการป้องกันหากแผงโซล่าเซลล์เกิดปัญหา โดยปกติแล้วการรับประกันจะแบ่งออกเป็น2 ส่วนดังนี้ การรับประกันสินค้า10ปี และ รับประกันประสิทธิภาพของแผง 25 ปี แต่บางทีในแต่ละผู้ประกอบการนั้นอาจจะมีการรับประกันที่แตกต่างกัน และ มีการรับประกันอุปกรณ์อื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คอนโทรลเลอร์ ชาร์เจอร์, อินเวอร์เตอร์ ออฟกริด ,ไฮบริด ออฟกริด,อินเวอร์เตอร์ ออนกริด เป็นต้น

นี้เป็นเพียงขั้นตอนเบื้องต้นในการที่จะให้ผู้บริโภคทราบก่อนติดสินใจเลือกผู้ประกอบการรายใดในการมาติดตั้งโซล่าเซลล์ที่บ้านเพราะหาก ไม่ตรวจสอบให้ดีอาจจะเกิดปัญหาาการใช้งานในภายหลังได้เพราะหากติดตั้งไปแล้วแผงโซล่าเซลล์นี้จะอยู่กับเราไปอีกอย่างน้อย ๆ 20 ปี ดังนั้นควรเลือกผู้ประกอบการที่น่าเชื่อถือ สามารถให้คำแนะนำต่างๆได้อย่างแม่นยำ

ดังนั้นเราจึงแนะนำ บริษัท แม็คเอนเนอยี อีโวลูชั่น จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการ ออกแบบ ติดตั้ง และซ่อมบำรุง ระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell) พร้อมการบริการอย่างมืออาชีพด้วยทีมวิศวกรตลอดจนช่างเทคนิค ที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งมีบริการหลังการขาย รับประกัน อย่างยอดเยี่ยม ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าเราจะตอบสนองความต้องการของท่านได้อย่างแน่นอน

 

“ระบบโซลล่าเซลล์ เม็คเอนเนอยี่ คือคำตอบที่ดีที่สุด”
McEnergy ผู้เชี่ยวชาญระบบโซลล่าเซลล์

พร้อมให้บริการ ด้วยทีมงานคุณภาพ ประสบการณ์ยาวนาน
มาตรฐานสากล แล้วคุณจะได้รับความประทับใจกลับไป

Hotline: 02-509-3211 , 090-9839009
Email : admin@mcenergy-evo.com