ผลิตน้ำเย็นต้องใช้เครื่องจักรอะไรบ้าง?

มารู้จักระบบผลิตน้ำเย็นอย่างละเอียดว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

ผลิตน้ำเย็นต้องใช้เครื่องจักรอะไรบ้าง?

ในอาคารขนาดใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรม หรือ แม้แต่ห้างสรรพสินค้า “ระบบผลิตน้ำเย็น” (Chilled Water System) ได้ถือว่าเป็นหัวใจหลักของการปรับอากาศ และ ควบคุมอุณหภูมิ เพื่อให้ภายในอาคารมีสภาวะที่เหมาะสมต่อการทำงาน และ การอยู่อาศัย หลายๆคนอาจสงสัยว่าเบื้องหลังระบบผลิตน้ำเย็นนี้ต้องใช้เครื่องจักรอะไรบ้าง และ แต่ละเครื่องมีหน้าที่อย่างไร ดังนั้นบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักองค์ประกอบสำคัญของระบบผลิตน้ำเย็นแบบครบวงจร พร้อมแนวทางการดูแลรักษาให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ระบบผลิตน้ำเย็น คืออะไร?

ต้องเข้าใจก่อนว่าระบบผลิตน้ำเย็น (Chilled Water System) คือ ระบบที่ทำหน้าที่ผลิต และ จ่าย “น้ำเย็น” เพื่อใช้ในกระบวนการแลกเปลี่ยนความร้อนกับอากาศภายในอาคาร โดยน้ำเย็นนี้จะถูกผลิตขึ้นโดยเครื่องจักรหลักที่เรียกว่า Chiller จากนั้นน้ำเย็นจะถูกสูบไปยัง Air Handling Unit (AHU) หรือ Fan Coil Unit (FCU) เพื่อทำความเย็นให้กับอากาศ แล้วหมุนเวียนกลับเข้าสู่ระบบอีกครั้ง โดยระบบผลิตน้ำเย็น นี้นิยมใช้ในอาคารขนาดกลางถึงใหญ่ เช่น โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า และสำนักงาน เพราะ จะช่วยควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ ประหยัดพลังงาน และ ยังสามารถดูแลบำรุงรักษาได้ง่ายกว่าเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กหลายๆเครื่องด้วย

 

ทำความรู้จักกับเครื่องจักรหลักในระบบผลิตน้ำเย็น

โดยต่อไปนี้ คือ เครื่องจักรหลักที่ใช้ในการผลิตน้ำเย็น และ จ่ายน้ำเย็น ซึ่งแต่ละเครื่องจะมีหน้าที่เฉพาะและ ทำงานร่วมกันเป็นระบบเดียวซึ่งสามารถแบ่งได้ตามนี้

  1. Chiller (เครื่องทำน้ำเย็น)

    Chiller คือ หัวใจสำคัญของระบบผลิตน้ำเย็น เพราะเป็นเครื่องที่ทำหน้าที่ลดอุณหภูมิน้ำให้เย็นลงจนถึงระดับที่ต้องการ (ประมาณ 6–7°C) ก่อนจะส่งไปยัง AHU หรือ FCU เพื่อแลกเปลี่ยนความร้อนกับอากาศภายในอาคาร โดย Chiller นั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

    • Water-Cooled Chiller : นั้นจะใช้น้ำจาก Cooling Tower ระบายความร้อน จึงเหมาะกับระบบขนาดใหญ่ เช่น โรงงาน หรือ ห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงแต่ต้องการพื้นที่ติดตั้งมาก
    • Air-Cooled Chiller : เครื่องนี้จะใช้อากาศระบายความร้อนผ่านคอยล์ และ พัดลม โดยไม่ต้องใช้ Cooling Tower จึงเหมาะสำหรับอาคารขนาดกลาง หรือ บริเวณที่มีพื้นที่จำกัด

    อีกทั้ง Chiller ยังประกอบด้วยส่วนประกอบย่อยๆ เช่น

    • Compressor (คอมเพรสเซอร์) – ทำหน้าที่สูบฉีดสารทำความเย็นเข้าไปในระบบ
    • Evaporator (เครื่องระเหย) – ทำหน้าที่ดูดความร้อนจากน้ำที่ต้องการทำให้เย็นขึ้น
    • Condenser (เครื่องควบแน่น) – ใช้ระบายความร้อนออกจากสารทำความเย็น
    • Expansion Valve (วาล์วขยาย) – ช่วยควบคุมการไหล และ แรงดันของสารทำความเย็น

  2. Cooling Tower (หอระบายความร้อน) 
    เป็นหอระบายความร้อนที่เหมาะสำหรับระบบ Water-Cooled Chiller ที่จะต้องมี Cooling Tower เพื่อระบายความร้อนออกจากน้ำที่ผ่าน Condenser ให้กลับมาเย็นลงก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งCooling Tower จะทำงานโดยใช้น้ำที่ร้อนจาก Condenser มาพ่นผ่านแผงกระจายน้ำ และ ระบายความร้อนออกสู่บรรยากาศผ่านกระบวนการระเหยของน้ำ ซึ่งจะช่วยให้อุณหภูมิน้ำลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ

  3. Pump (ปั๊มน้ำ) ในระบบผลิตน้ำเย็นจะมี ปั๊มน้ำ อยู่หลายจุด เพื่อส่งน้ำหมุนเวียนไปตามท่อในระบบต่างๆ เช่น
    • Chilled Water Pump – สูบน้ำเย็นจาก Chiller ไปยัง AHU/FCU
    • Condenser Water Pump – สูบน้ำระบายความร้อนจาก Condenser ไปยัง Cooling Tower
    • Make-up Pump – เติมน้ำที่สูญเสียจากการระเหยใน Cooling Tower

    ปั๊มเหล่านี้ต้องเลือกตามอัตราการไหล (Flow Rate) และแรงดัน (Head Pressure) ที่เหมาะสมกับระบบ เพื่อให้การหมุนเวียนน้ำมีประสิทธิภาพที่สุด

  4. Air Handling Unit (AHU) และ Fan Coil Unit (FCU) ซึ่งทั้งสองระบบนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนความร้อนระหว่าง “น้ำเย็น” กับ “อากาศ” ภายในพื้นที่ใช้งาน โดย AHU มักจะใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น โรงแรม หรือ สำนักงาน ซึ่งจะมีพัดลม และ ระบบกรองอากาศขนาดใหญ่ช่วยในการทำความเย็น และ FCU จะใช้ในห้องขนาดเล็กกว่า เช่น ห้องพัก หรือออฟฟิศย่อย ที่มีขนาดกะทัดรัด และ ติดตั้งง่ายกว่า

    อีกทั้งเมื่ออากาศผ่านคอยล์เย็น (Cooling Coil) ที่มีน้ำเย็นไหลผ่าน ความร้อนจะถูกดึงออก ทำให้อากาศเย็นลง ก่อนพัดกระจายไปทั่วพื้นที่นั้นเอง

  5. Piping System (ระบบท่อส่งน้ำเย็น)
    ระบบท่อเป็นโครงข่ายที่เชื่อมโยงกับเครื่องจักรทุกส่วนของระบบผลิตน้ำเย็นเข้าด้วยกัน โดยทั่วไปจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆได้แก่ Chilled Water Piping – เป็นท่อน้ำเย็นที่จะส่งไปยัง AHU/FCU และ Condenser Water Piping – เป็นท่อน้ำระบายความร้อนระหว่าง Condenser และ Cooling Tower นั้นเอง โดยวัสดุของท่อทั้งสองที่นิยมใช้ ได้แก่ เหล็กชุบสังกะสี (Galvanized Steel), ท่อเหล็กดำ, หรือ ท่อ HDPE/PE สำหรับระบบที่ต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อน และ แรงดันสูง

  6. Control System (ระบบควบคุมอัตโนมัติ)
    Control System ปัจจุบัน ระบบผลิตน้ำเย็นสมัยใหม่มักมาพร้อม Building Automation System (BAS) หรือ Smart Control System ที่สามารถตรวจสอบอุณหภูมิ แรงดัน และ การทำงานของแต่ละเครื่องได้แบบเรียลไทม์ โดยระบบนี้จะช่วยให้ผู้ดูแลสามารถปรับค่าการทำงานได้อย่างแม่นยำ ลดการใช้พลังงาน และ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานโดยรวมของระบบได้อย่างมาก

 

จากที่กล่าวมาจะพบว่าระบบผลิตน้ำเย็นเป็นระบบสำคัญในงานปรับอากาศ และ ควบคุมอุณหภูมิในอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องจักรหลักๆหลายชนิด เช่น Chiller, Cooling Tower, Pump, AHU/FCU และ ระบบควบคุมอัตโนมัติ การเข้าใจหน้าที่ของแต่ละส่วนจะช่วยให้สามารถเลือกอุปกรณ์และ ออกแบบระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหากมีการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ระบบนี้จะยิ่งช่วยให้ประหยัดพลังงาน และ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานหลายสิบปี ทำให้ระบบผลิตน้ำเย็นเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทั้งในด้านความเย็นสบาย และ ความยั่งยืนของอาคารในระยะยาวด้วย

 

ดังนั้นหากสนใจระบบผลิตน้ำเย็นที่มีประสิทธิภาพเราขอแนะนำ McEnergy ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน ระบบผลิตน้ำเย็น ตามความต้องการ ทั้งสามารถติดตั้งได้หลากหลายรูปแบบรวมถึงการที่มีระบบคุณภาพสูง มีบริการครบวงจรสามารถให้คำปรึกษา ในการออกแบบการติดตั้ง และ เลือกใช้บริการแบบใด ก็ได้อย่างดีเนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำได้อย่างครบถ้วน และ ยังมีบริการบำรุงรักษา ทั้งยังมีบริการหลังการขาย บริการล้างทำความสะอาดทั้งระบบโดยทีมงานที่เป็นมืออาชีพพร้อมดูแลลูกค้าตลอด 24 ชม


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
บริษัท แม็คเอนเนอยี อีโวลูชั่น จำกัด

Tel : 096 818 8067
Facebook : https://shorturl.asia/q1zy6
Line ID : https://lin.ee/o6vKra5
Email : admin@mcenergy-evo.com