Home > คลังบทความ > ระบบ HVAC แบบ VRF คืออะไร

ระบบ HVAC แบบ VRF คืออะไร? เหมาะกับอาคารประเภทใดบ้าง

ทำไมอาคารสมัยใหม่จึงนิยมติดตั้งระบบ HVAC แบบ VRF กันมากขึ้น

ระบบ HVAC

ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีการจัดการด้านสภาพอากาศภายในอาคารนั้นได้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระบบ HVAC (Heating, Ventilation, and Air Conditioning) ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของการออกแบบอาคารสมัยใหม่ โดยเฉพาะระบบ VRF (Variable Refrigerant Flow) หรือ VRV (Variable Refrigerant Volume) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในอาคารพาณิชย์และ ที่อยู่อาศัยที่มีความต้องการควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ ดังนั้นบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับระบบ HVAC แบบ VRF ว่าคืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร และ เหมาะสมกับอาคารประเภทใดบ้างกัน

 

ทำความรู้จักระบบ HVAC แบบ VRF คืออะไร?

ต้องเข้าใจก่อนว่าระบบ HVAC แบบ VRF หรือ Variable Refrigerant Flow (บางยี่ห้อ เช่น Daikin เรียกว่า VRV หรือ Variable Refrigerant Volume) เป็นระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ที่สามารถปรับปริมาณน้ำยาทำความเย็น (refrigerant) ที่ไหลไปยังคอยล์เย็น (Indoor Unit) ในแต่ละพื้นที่ได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการความเย็น หรือ ความร้อนของแต่ละโซนที่แท้จริงได้ ซึ่งระบบ HVAC แบบ VRF นี้ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) โดยบริษัท Daikin ในญี่ปุ่น และ ได้กลายเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงวงการ HVAC ด้วยความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ และประหยัดพลังงาน

อีกทั้งหลักการทำงานของ ระบบ HVAC แบบ VRF นั้นจะทำงานโดยใช้เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ (Inverter Technology) ซึ่งควบคุมความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์ในคอยล์ร้อนให้เหมาะสมกับภาระความร้อน (thermal load) ในแต่ละพื้นที่ คอยล์เย็นแต่ละตัวจะมีวาล์วควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Expansion Valve หรือ EEV) ที่ปรับปริมาณน้ำยาทำความเย็นให้เหมาะสมกับความต้องการของห้องนั้นๆได้ ตัวอย่างเช่น หากห้องประชุมมีคนจำนวนมาก และ ต้องการความเย็นมาก ระบบจะส่งน้ำยาทำความเย็นไปยังคอยล์เย็นในห้องนั้นมากขึ้น ในขณะที่ห้องที่ไม่มีคนใช้งานจะได้รับน้ำยาน้อยลง หรือ หยุดการจ่ายน้ำยาเลยนั้นเอง โดยระบบ HVAC แบบ VRF นั้นมีสองประเภทหลัก ได้แก่

  1. Heat Pump VRF: ระบบ HVAC แบบ VRF ประเภทนี้นั้นจะสามารถทำได้ทั้งความเย็น หรือ ความร้อน ได้ แต่ไม่สามารถทำทั้งสองอย่างพร้อมกันในเวลาเดียวกันได้ จึงเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความต้องการอุณหภูมิในทิศทางเดียวกัน

  2. Heat Recovery VRF: ระบบ HVAC แบบ VRF ประเภทนี้นั้นสามารถทำความเย็น และ ความร้อนพร้อมกันในพื้นที่ที่แตกต่างกันได้ เช่น ทำความเย็นในห้องทำงาน และ ให้ความร้อนในห้องเก็บของในเวลาเดียวกันได้นั้นเอง

 

ประโยชน์ของระบบ HVAC แบบ VRF

  1. ประหยัดพลังงาน
    ระบบ HVAC แบบ VRF เป็นหนึ่งในระบบ HVAC ที่ประหยัดพลังงานมากที่สุด ด้วยเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ที่ปรับความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์ตามภาระความร้อน ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 30-50% เมื่อเทียบกับระบบ HVAC แบบดั้งเดิม เช่น ระบบ Chilled Water หรือ Packaged Unit นอกจากนี้ ระบบ VRF ยังสามารถหยุดการจ่ายน้ำยาไปยังพื้นที่ที่ไม่มีการใช้งาน จึงช่วยลดการสูญเสียพลังงานโดยไม่จำเป็น

  2. ความยืดหยุ่นในการควบคุม
    ระบบ HVAC แบบ VRF นั้นอนุญาตให้ควบคุมอุณหภูมิในแต่ละโซน หรือ ห้องได้อย่างอิสระ ตัวอย่างเช่น ในอาคารสำนักงาน โซนที่ใช้งานหนัก เช่น ห้องประชุม สามารถตั้งอุณหภูมิให้เย็นกว่าห้องที่ไม่ได้ใช้งานได้ ระบบควบคุมจากส่วนกลางจะยังช่วยให้ผู้ดูแลอาคารสามารถตั้งเวลาเปิด-ปิด หรือ จำกัดการปรับอุณหภูมิในบางพื้นที่ได้ด้วย

  3. ประหยัดพื้นที่ติดตั้ง
    คอยล์ร้อนของระบบ HVAC แบบ VRF นั้นมีเพียงชุดเดียวจึงสามารถเชื่อมต่อกับคอยล์เย็นได้มากถึง 64 ชุด (ขึ้นอยู่กับขนาด BTU) ทำให้ลดจำนวนคอยล์ร้อนที่ต้องติดตั้งเมื่อเทียบกับระบบแยกส่วน (Split Type) ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ และ รักษาทัศนียภาพของอาคารได้

  4. การเดินท่อน้ำยาระยะไกล
    ระบบ HVAC แบบ VRF นั้นสามารถเดินท่อน้ำยาได้ไกลกว่าระบบแยกส่วนทั่วไปได้ เช่น จากชั้น 1 ไปยังดาดฟ้าชั้น 6 ทำให้เหมาะสำหรับอาคารที่มีข้อจำกัดด้านตำแหน่งติดตั้งคอยล์ร้อนนั้นเอง

  5. ความหลากหลายของคอยล์เย็น
    ระบบ HVAC แบบ VRF สามารถรองรับคอยล์เย็นได้หลากหลายประเภท เช่น แบบติดผนัง แบบฝังฝ้า หรือ แบบต่อท่อลม ทำให้สามารถออกแบบให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งภายในของอาคารได้อย่างลงตัว

  6. ความสามารถในการทำความร้อน และ ความเย็นพร้อมกัน 
    ในระบบ Heat Recovery VRF นั้นสามารถให้ความเย็นในบางโซน และ ความร้อนในโซนอื่นๆได้พร้อมกัน โดยใช้ความร้อนที่ถูกระบายออกจากโซนที่ทำความเย็นเพื่อให้ความร้อนในโซนอื่น จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

อาคารที่เหมาะสมกับระบบ HVAC แบบ VRF

ระบบ HVAC แบบ VRF นั้นมีความยืดหยุ่นสูง และ เหมาะกับอาคารหลากหลายประเภท โดยเฉพาะอาคารที่มีความต้องการควบคุมอุณหภูมิที่แตกต่างกันในแต่ละโซน ทำให้เหมาะกับการใช้งานมากมายดังนี้

  1. อาคารพาณิชย์
    สำหรับในสำนักงานนั้นระบบ HVAC แบบ VRF จะเหมาะสำหรับอาคารสำนักงานที่มีห้องทำงาน ห้องประชุม และ พื้นที่ส่วนกลางที่มีความต้องการความเย็นต่างกัน ตัวอย่างเช่น ห้องประชุมอาจตั้งอุณหภูมิที่ 23-24 องศาเซลเซียส ในขณะที่ห้องทำงานทั่วไปตั้งที่ 25-26 องศาเซลเซียสนั้นเอง

    ห้างสรรพสินค้า และ ร้านค้าปลีก นั้นระบบ HVAC แบบ VRF จะช่วยควบคุมอุณหภูมิในโซนต่างๆได้ เช่น ร้านค้า พื้นที่เดิน หรือ ร้านอาหาร โดยสามารถประหยัดพลังงานในพื้นที่ที่ไม่มีการใช้งานได้

    ในโรงแรม และ รีสอร์ท ระบบ HVAC แบบ VRFจะ เหมาะสำหรับโรงแรมที่มีห้องพักหลายห้อง โดยแต่ละห้องสามารถควบคุมอุณหภูมิได้อิสระ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แขก และ ประหยัดพลังงานในห้องที่ไม่มีการใช้งาน

  2. อาคารที่อยู่อาศัย
    ในบ้านพักอาศัยขนาดใหญ่บ้านที่มีหลายชั้น หรือ หลายห้อง เช่น บ้านเดี่ยว หรือ ทาวน์โฮมที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า 200 ตารางเมตร สามารถใช้ระบบ HVAC แบบ VRF เพื่อควบคุมอุณหภูมิในแต่ละห้องได้อย่างแม่นยำ

    คอนโดมิเนียม และ อพาร์ตเมนต์ ที่ระบบ HVAC แบบ VRF จะเหมาะสำหรับอาคารที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ติดตั้งคอยล์ร้อน เนื่องจากใช้คอยล์ร้อนเพียงชุดเดียวต่อคอยล์เย็นหลายชุดได้

  3. โรงงาน และ อาคารอุตสาหกรรม
    โรงงานที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ และ ความชื้น นั้นระบบ HVAC แบบ VRF นั้นเหมาะสำหรับโรงงานที่มีพื้นที่การผลิต หรือ ห้องปฏิบัติการที่ต้องการควบคุมสภาพอากาศอย่างแม่นยำ เช่น โรงงานผลิตยาหรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

    โกดัง และ คลังสินค้า จะเห็นได้ว่าในโกดังที่มีพื้นที่บางส่วนต้องการความเย็น เช่น ห้องเก็บสินค้าที่ไวต่ออุณหภูมิ จะใช้ระบบ HVAC แบบ VRF จัดการความเย็นเฉพาะโซนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  4. อาคารสาธารณะ
    โรงพยาบาล และ สถานพยาบาล นั้นระบบ HVAC แบบ VRF เหมาะสำหรับโรงพยาบาลที่มีความต้องการควบคุมอุณหภูมิ และ ความชื้นในห้องผ่าตัด ห้องผู้ป่วย หรือ ห้องปฏิบัติการต่างๆ

    โรงเรียน และ มหาวิทยาลัย จะพบว่าในห้องเรียน ห้องสมุด หรือ หอประชุมที่มีความต้องการความเย็นต่างกันจะสามารถใช้ระบบ HVAC แบบ VRF เพื่อประหยัดพลังงาน และ ควบคุมสภาพอากาศได้อย่างเหมาะสม

  5. อาคารที่มีพื้นที่จำกัด
    ระบบ HVAC แบบ VRF นั้นจะต้องการพื้นที่ติดตั้งคอยล์ร้อนน้อยกว่าระบบแยกส่วนทั่วไป ทำให้เหมาะสำหรับอาคารที่มีพื้นที่ภายนอกจำกัด เช่น ตึกแถว หรือ อาคารในเมืองที่ถูกล้อมด้วยอาคารอื่นๆ

จากทั้งหมดจะพบว่าระบบ HVAC แบบ VRF เป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการสภาพอากาศในอาคาร ด้วยความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ ประหยัดพลังงาน และ ประหยัดพื้นที่ติดตั้ง ทำให้เหมาะสำหรับอาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ โรงงาน อาคารสาธารณะ และ อาคารที่มีพื้นที่จำกัด แม้ว่าจะมีข้อจำกัดด้านต้นทุนเริ่มต้น และ การบำรุงรักษา แต่ข้อดีด้านประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นทำให้ระบบ HVAC แบบ VRF เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับอาคารสมัยใหม่

ดังนั้นหากสนใจติดตั้งระบบ HVAC แบบ VRF นั้นเราขอแนะนำ McEnergy ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน ระบบ HVAC แบบใช้พลังงานแสงอาทิตย์ตามความต้องการ ทั้งสามารถติดตั้งหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งระบบยังมีคุณภาพสูง มีบริการครบวงจรสามารถให้คำปรึกษา ในการออกแบบการติดตั้ง และ เลือกใช้ ระบบ HVAC แบบใช้พลังงานแสงอาทิตย์ขนาดไหนอย่างไรได้อย่างดีเนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำได้อย่างครบถ้วน และ ยังมีบริการบำรุงรักษา ทั้งยังมีบริการหลังการขาย บริการล้างทำความสะอาดทั้งระบบโดยทีมงานที่เป็นมืออาชีพพร้อมดูแลลูกค้าตลอด 24 ชม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
บริษัท แม็คเอนเนอยี อีโวลูชั่น จำกัด

Tel : 096 818 8067
Facebook : https://shorturl.asia/q1zy6
Line ID : https://lin.ee/o6vKra5
Email : admin@mcenergy-evo.com