หลักการทำงานของ Air Compressor

หลักการทำงานของ Air Compressor

Air Compressor มากประโยชน์หลากหลายกับอุตสาหกรรม

เลือก Air Compressor

Air Compressor คืออีกหนึ่งคุณประโยชน์มากประการที่นิยมใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมมากมายหลากหลายประเภท ตั้งแต่โรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ก็ล้วนใช้ประโยชน์จาก Air Compressor ไม่มากก็น้อย แต่ในขณะเดียวกัน Air Compressor ก็มีการจัดรูปแบบออกเป็นหลายประเภทขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ซึ่งมีหลักการทำงานที่เฉพาะเจาะจงขึ้นอยู่กับประเภทของ Air Compressor นั่นเอง เราจึงควรทราบหลักการทำงานของ Air Compressor เพื่อที่จะสามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างตรงจุด

 

Air Compressor คืออะไร?

Air Compressor หรือในชื่อภาษาไทยที่เราเรียกว่า “ปั๊มลม” ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับลมโดยตรง ทำหน้าที่ในการอัดลมให้มีแรงดันที่สูงมากขึ้นเพื่อที่เราจะสามารถนำลมแรงดันสูงนั้นไปใช้ประโยชน์ต่างๆได้อย่างหลากหลายขึ้นอยู่กับลักษณะการประยุกต์ในการนำไปใช้งาน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กหรือจะไปจนถึงระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมขาดใหญ่ Air Compressor นี้ก็ล้วนมีความสำคัญอย่างมากในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานต่างๆของระบบที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างสำหรับ Air Compressor ที่นิยมใช้ในงานอู่ซ่อมรถยนต์ หรือ อู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ มักจะนิยมใช้งาน Air Compressor ประเภทลูกสูบ (Reciprocating Air Compressor) ที่มีการใช้ลมประมาณน้อยและไม่ต้องการแรงดันลมที่สูงมาก แต่หากเป็น Air Compressor ที่นิยมใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ขึ้นมา ก็จะเลือกใช้ Air Compressor ประเภทอื่นๆที่สามารถให้ปริมาณลมและความดันลมที่มากยิ่งขึ้น สำหรับนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า

 

หลักการทำงานของ Air Compressor แต่ละประเภท

สำหรับ Air Compressor ที่ถูกแบ่งประเภทตามลักษณะการใช้งานที่เหมาะสมและยังมีหลักการทำงานของ Air Compressor ที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเภท เราสามารถพบเห็น Air Compressor ที่นิยมใช้งานกัน 6 ประเภทได้แก่

  1. ปั๊มลมประเภทลูกสูบ (Piston Air Compressor)
    ซึ่งจะมีหลักการทำงานของ Air Compressor ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังในการขับเคลื่อนลูกสูบเพื่อที่จะให้สามารถเคลื่อนที่ขึ้นลง สร้างแรงดูและอัดอากาศภายในกระบอกสูบขึ้นมา โดยมีวาร์วทางบริเวณที่ดูดเข้าและวาล์วบริเวณทางออกของลมที่สัมพันธ์กัน Air Compressor นี้จัดเป็นอีกหนึ่งประเภทที่เป็นที่นิยมในการใช้งานอันดับต้นๆ เนื่องจากความเหมาะสมในด้านการทำงานที่มีประสิทธิภาพและมีราคาไม่สูงสามารถพกพาเคลื่อนย้ายไปในจุดที่ต้องการใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย Air Compressor ชนิดลูกสูบสามารถสร้างความดันลมได้ตั้งแต่ 1 - 1,000 bar แต่ในทางกลับกัน Air Compressor ประเภทนี้จะมีเสียงที่ค่อนข้างดังในขณะที่เครื่องทำงาน แต่ก็มีบางประเภทย่อยของ Air Compressor ประเภทนี้อย่าง Booster Air Compressor , High Pressure Air Compressor ที่สามารถให้แรงดันลมได้สูงในขณะที่มีเสียงเงียบในช่วงเวลาทำงานที่ค่อนข้างเบา


  2. ปั๊มลมประเภทไดอะแฟรม (Diaphragm Air Compressor)
    ซึ่งจะมีหลักการทำงานที่คล้ายคลึงกับ Air Compressor ระบบลูกสูบแต่จะมีส่วนเสริมที่เป็นแผ่นไดอะแฟรมที่ถูกเพิ่มเข้ามาเป็นตัวกั้นไม่ให้อากาศสัมผัสกับลูกสูบโดยตรง มีคุณสมบัติที่สามารถช่วยให้ลมที่ถูกดูดเข้าไปใน Air Compressor ประเภทนี้จะไม่โดนหรือสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะ ผลลัพธ์คือลมที่เราได้นั้นจะไม่มีการผสมกับน้ำมันหล่อลื่น ข้อดีของ Air Compressor ประเภทไดอะแฟรม ลมที่ได้ออกมานั้นจะมีคุณภาพที่สะอาดไร้การปนเปื้อน ส่วนใหญ่จึงมักจะนิยมถูกนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมเฉพาะด้านที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษอย่างเช่น อุตสาหกรรมยา หรือ อุตสาหกรรมอาหาร ที่จำเป็นต้องใช้งาน Air Compressor สำหรับส่งสารเคมีต่างๆ และ Air Compressor ประเภทไดอะแฟรมนี้ยังมีการทำงานที่ค่อนข้างเงียบกว่า Air Compressor ประเภทลูกสูบเหมาะสมอย่างมากในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความเงียบที่ไร้เสียงรบกวนเป็นพิเศษ


  3. ปั๊มลมประเภทสกรู (Screw Air Compressor)
    ซึ่งมีหลักการทำงานที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังในการหมุนเพลาสกรู 2 ตัว ให้หมุนเข้าหากันสำหรับการสร้างแรงอัดอากาศขึ้นมา จัดเป็น Air Compressor ที่มีการผลิตลมที่มีคุณภาพค่อนข้างสูงและยังสามารถให้ปริมาณลมที่สม่ำเสมอกว่า Air Compressor ประเภทลูกสูบหรือไดอะแฟรม Air Compressor ประเภท สกรูนี้สามารถจ่ายลม 170 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) และยังมีคุณสมบัติที่สามารถสร้างความดันได้สูงมากถึง 13 bar


  4. ปั๊มลมประเภทใบพัดเลื่อน (Sliding Vane Rotary Air Compressor)
    ซึ่งจะมีหลักการทำงานของใบพัดที่ถูกติดอยู่กับชุดขับเคลื่อนการหมุนเรือที่เรียกว่า โรเตอร์ และวางให้เยื้องศูนย์ภายในของเรือนสูบ เมื่อเรามีการเปิดใช้งาน Air Compressor ประเภทใบพัดเลื่อน โรเตอร์จะเกิดการหมุนใบพัดซึ่งสามารถจะอัดอากาศจากพื้นที่กว้างไปสู่ที่แคบกว่า ดูดอากาศเข้าด้วยการหมุนที่คงที่และอัดอากาศออกทางช่องที่ลมออก จุดเด่นของ Air Compressor คือความสม่ำเสมอของอากาศ มีแรงดันที่คงที่ เหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการแรงลมที่มีความสม่ำเสมอและคงที่ในการใช้งาน Air Compressor ประเภทใบพัดเลื่อนนี้จะไม่มีลิ้นหรือวาล์วในการเปิดปิดในพื้นที่จำกัดซึ่งจะทำให้ไวต่อความร้อน มีคุณสมบัติที่สามารถกระจายแรงลมได้ 4 - 100 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที ความดันของลมอยู่ที่ 4 - 10 bar


  5. ปั๊มลมประเภทใบพัดหมุน (Roots Air Compressor)
    ซึ่งจะมีหลักการทำงานด้วยใบพัดหมุน 2 ตัว เมื่อโรเตอร์ 2 ตัวทำการหมุน จะสร้างลมดูดเข้าไปจากฝั่งหนึ่งสู่อีกฝั่งหนึ่ง โดยอากาศที่ถูกดูดเข้าไปนั่นจะไม่มีการเปลี่ยนปริมาตร หมายความว่าอากาศจะไม่เกิดการถูกบีบหรืออัดตัว แต่อากาศเหล่านั้นจะมีการอัดตัวก็ต่อเมื่อถูกเข้าไปเก็บที่บริเวณถังลม Air Compressor ประเภทใบพัดหมุนมีความจำเป็นต้องอาศัยระบบระบายความร้อนและอุณหภูมิที่ค่อนข้างดี ไม่มีลิ้น ไม่ต้องการหล่อลื่นขณะทำงาน ในขณะเดียวกันก็มีต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างสูง


  6. ปั๊มลมประเภทกังหัน (Redial and axial flow Air Compressor)
    ซึ่งจะมีหลักการทำงานของใบพัดกังหันดูดลมเข้าจากอีกด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่ง ตามแกนด้วยลักษณะการหมุนที่มีความเร็วสูง บวกกับลักษณะของใบพัดที่เป็นส่วนสำคัญเรื่องอัตราการจ่ายลม ทำให้ Air Compressor ประเภทกังหันนี้สามารถจ่ายอัตราลมที่สูงมาก สามารถผลิตลมได้มากถึง 170 - 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min)

 

เลือก Air Compressor ประสิทธิภาพสูงกับผู้ให้บริการคุณภาพ

เพราะการเลือกใช้ Air Compressor ล้วนส่งผลกับการทำงานโดยตรง ทั้งด้านระยะเวลาและคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ก็ควรเลือกใช้งาน Air Compressor ที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันปัญหาที่ไม่ต้องการตามมาในภายหลัง บริษัท แม็คเอนเนอยี อีโวลูชั่น จำกัด (McEnergy) ผู้ให้บริการออกแบบติดตั้งระบบปรับอากาศ ระบบปรับอากาศภายในอาคาร ระบบคูลลิ่งทาวเวอร์ ระบบซิลเลอร์ รวมไปถึง Air Compressor ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมบริการออกแบบระบบประหยัดพลังงานสำหรับอาคารและโรงงาน บริการบำรุงรักษาการทดสอบการใช้งานนอกระบบ วิเคราะห์และควบคุมคุณภาพ ที่สามารถมั่นใจได้ถึงมาตรฐานการทำงานในทุกๆขั้นตอน ให้บริการด้วยใจ มีคุณภาพทุกชิ้นงาน


เราจะเห็นได้ว่า Air Compressor นั้นมีประโยชน์อย่างมากต่ออุตสาหกรรมประเภทต่างๆซึ่ง Air Compressor ก็ถูกแบ่งประเภทและหลักการทำงานตามรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน เพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่าการเลือกใช้ Air Compressor ที่เราสนใจนั้นเหมาะสมหรือไม่ การเลือกใช้บริการคำปรึกษากับ บริษัท แม็คเอนเนอยี อีโวลูชั่น จำกัด ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสมด้วยบริการที่หลากหลาย วัสดุคุณภาพสูงทุกชิ้นงาน พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพที่เชี่ยวชาญด้าน Air Compressor โดยเฉพาะสามารถให้คำแนะนำการใช้งานรวมไปถึงการเลือกใช้ Air Compressor ประเภทไหนที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด

บริษัท แม็คเอนเนอยี อีโวลูชั่น จำกัด
Tel : 02-509-3211, 096-818-8067, 090-9839009, 082-426-9293, 063-268-0053 และเบอร์ 063-268-0153
Email : admin@mcenergy-evo.com