ทำความรู้จักบริการ boda

ทำความรู้จักบริการ boda

ระบบช่วยบริหารจัดการระบบทำความเย็นในอาคารธุรกิจและโรงงาน

Chiller

อย่างที่ทราบกันดีว่า Cooling Tower คูลลิ่งทาวเวอร์ Chiller ชิลเลอร์ จะถูกติดตั้งอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมแทบจะทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโรงงานเหล็ก โรงไฟฟ้าอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร โรงงานปิโตรเคมี หรือโรงกลั่นน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ฯลฯ เพื่อใช้เป็นตัวระบายความร้อนจากระบบน้ำหล่อเย็นที่อยู่ในเครื่องจักร และใช้เป็นระบบปรับอากาศในอาคารหรือโรงงานด้วย

ซึ่งข้อดีที่เป็นประโยชน์หลักๆ ของ Cooling Tower คูลลิ่งทาวเวอร์ Chiller ชิลเลอร์ ก็คือ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรและช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าภายในโรงงาน เพราะช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องจักรหรือเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ ไม่ให้เกิดความร้อนและนำไปสู่ภาระค่าไฟฟ้าที่มากขึ้น ยิ่งในปัจจุบันนี้ที่อุตสาหกรรมต่างๆ เริ่มฟื้นตัว เพราะเริ่มมีความต้องการในการผลิตมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเหล่าโรงงานต่างๆ จะต้องเตรียมกำลังคน กำลังของเครื่องจักรให้พร้อมกับงานทำงานที่มากขึ้น นั่นเอง

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้สำรวจแนวโน้มอุตสาหกรรมในประเทศไทย ปี 2565 โดยพบว่า “กลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีแนวโน้มฟื้นตัว เมื่อเทียบกับปี 2564 จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ และการส่งออกที่เติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ผลกระทบไม่รุนแรงมากนัก แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มอุตสาหกรรมก็ยังคงมีความกังวัลเกี่ยวกับการกลับมาของโรคระบาดสายพันธุ์ใหม่ๆ และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ รวมทั้งผลกระทบจากราคาพลังงานและวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต…” (ขอบคุณข้อมูลจาก : mreport)

จากข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่กำลังบอกเหล่าผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่างๆ ว่า แม้ว่าแนวโน้มของอุตสาหกรรมจะดีขึ้นแต่ก็อย่าได้ประมาท เพราะยังมีปัญหาทั้งจากโรคระบาดอื่นๆ และสถานการณ์สงครามที่สามารถส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในประเทศได้ทุกเมื่อ ฉะนั้น การบริหารต้นทุนการผลิตให้ดีและคุ้มค่าจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยกลวิธีสำคัญของการบริหารต้นทุนการผลิตที่ภาคของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ นิยมใช้กันมีหลายวิธีแล้วแต่นโยบายและกลยุทธ์ของเจ้าธุรกิจนั้นเลือกใช้กัน อาทิ

  • หาแหล่งวัตถุดิบราคาถูก
  • การตัดต้นทุนส่วนที่ไม่จำเป็น
  • ลดการสูญเสียในการผลิต
  • การปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตอยู่เสมอ เป็นต้น

แน่นอนว่าวิธี 3-4 ข้อด้านบนที่เราพูดกล่าวไปนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับความรู้ความเข้าใจของเหล่าเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม แต่สิ่งที่อาจทำได้ยากและแต่ละโรงงานสามารถทำได้ในประสิทธิภาพที่ไม่เท่ากันก็คือ วิธีการและเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้นนั่นเอง และด้วยความจำเป็นของเหตุผลเหล่านี้เอง McEnergy จึงได้คิดค้นบริการที่เข้ามาช่วยตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ของโรงงานอุตสาหกรรม ที่เรียกว่า บริการboda

บริการ boda คืออะไร?

คำว่า boda ย่อมาจากคำว่า Building Operation Digital Assistance ก็คือบริการที่จะเข้ามาเป็นเสมือนผู้ช่วยของคุณ ที่จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการอาคารธุรกิจและโรงงาน ตรวจสอบและประสานงานกับทีมงานในโรงงาน 24 ชั่วโมง ซึ่งกล่องอุปกรณ์ของ boda นั้นจะเชื่อมต่อกับระบบทำความเย็นของอาคารและโรงงานของคุณ เพื่อตรวจสอบความผิดปกติและวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาแบบอัติโนมัติ พร้อมรายงานผลให้คุณภายใน 15 นาที ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ภายในโรงงาน ที่จะนำมาซึ่งการช่วยลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้มากกว่า 50%


บริการ boda ทำอะไรได้บ้าง?

  1. ผู้ช่วยที่คอยตรวจสอบและประสานงานกับทีมงานของคุณตลอด 24 ชั่วโมง : ระบบ boda จะเชื่อมต่อกับระบบทำความเย็นหรือ Chiller Plant ในโรงงานของคุณ และคอยประมวลพร้อมแจ้งบอกสถานะต่างๆ กับทีมงานหรือช่างเทคนิคของคุณ แบบ 24 ชั่วโมงใน 7 วัน ซึ่งแบ่งออก 2 ประเภทคือ

    • Incidence : คือการแจ้งเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติ ด้วยกัน 2 ระดับ ได้แก่ ไฟสีแดง หมายถึง ระบบหยุดทำงาน และ ไฟสีเหลือง หมายถึง ระบบมีแนวโน้มที่จะทำงานผิดปกติ เช่น อยู่ในสถานะเฝ้าระวัง เกณฑ์เป้าระวังที่กำหนด หรือใช้โหมดการทำงานที่ไม่ถูกต้อง เป็นต้น

    • Asset Health : คือการแจ้งข้อมูลการใช้งาน คุณภาพและประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร โดยจะแจ้งข้อมูลรายการที่มีการเบี่ยงเบนไปจากมาตรฐาน และรายการที่ยังสามารถทำงานได้ปกติ ทั้งคุณภาพ ประสิทธิภาพและพลังงาน

  2. ตรวจสอบระบบทำน้ำเย็นของ Cooling Tower Chiller และวิเคราะห์สถานะการทำงานให้คุณแบบอัตโนมัติ : โดยในขั้นตอนนี้ระบบของ boda จะเข้าตรวจสอบและวิเคราะห์ระบบทำความเย็นในโรงงานของคุณแบบ 24 ชั่วโมงใน 7 วัน โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนได้แก่

    • Chiller Plant Performance : คือประสิทธิภาพการทำงานของระบบทำความเย็นโดยจะแจ้งรายละเอียดปนะสิทธิภาพการทำงานในเรื่องต่างๆ ดังนี้คือ ชิลเลอร์หยุดทำงาน, โหลดทำความเย็นไม่เพียงพอ, Cooling Tower ระบายความร้อนไม่เพียงพอ, อุณหภูมิหรือค่าอัตราการไหลของน้ำเย็นสูง/ต่ำ เกินกำหนด รวมถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Performance), โหลดทำความเย็น (Cooling Load), การใช้พลังงาน (kWh) และพีคการใช้งานพลังงาน (kWp)

    • Chiller Plant Operation Status : คือสถานะการทำงานของระบบทำความเย็น โดยจะแจ้งรายละเอียดสถานะการทำงาน ดังต่อไปนี้คือ Chillerหยุดทำงาน, ปั๊มน้ำหยุดทำงาน, โหลดทำความเย็นไม่เพียงพอ, Cooling Tower ระบายความร้อนไม่เพียงพอ, อุณหภูมิของน้ำเย็นสูง/ต่ำ เกินกำหนด, การใช้พลังงาน (kWh) และพีคการใช้งานพลังงาน (kWp)

    • Chiller Operation Status : คือสถานะการทำงานของเครื่องทำความเย็น ได้แก่ ชิลเลอร์หยุดทำงาน, Chiller Alarm, อุณหภูมิของน้ำร้อน-เย็นสูง/ต่ำ เกินกำหนด, แรงดันน้ำร้อน-เย็นสูง/ต่ำ เกินกำหนด, อุณหภูมิของน้ำมันสูง/ต่ำ เกินกำหนด, แรงดันของน้ำมันสูง/ต่ำ เกินกำหนด, อุณหภูมิของน้ำยาจ่ายสูง/ต่ำ เกินกำหนด, อุณหภูมิของน้ำยาดูดสูง/ต่ำ เกินกำหนด, อุณหภูมิของน้ำยาด้านดูดสูง/ต่ำ เกินกำหนด

  3. เชื่อมต่อระบบอาคารและโรงงานของคุณผ่านเครื่องมือของระบบ boda : โดยกล่องของ boda จะเชื่อมต่อเครื่องมือต่างๆ ของ 3 ส่วนสำคัญคือ

    • Chiller Plant Performance : กล่อง boda จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในส่วนของ Digital Mater (เครื่องดิจิตอล), Temperature (PT100) เครื่องวัดอุณหภูมิผ่าน RTD Sensor (Resistance Temperature Detector) : ซึ่งก็คือตัวเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ และ Flow Meter ซึ่งก็คือเครื่องช่วยวัดอัตราการไหล โดยจะควบคุมการทำงานผ่านตัว Remote IO นั่นเอง

    • Chiller Plant Operation Status : กล่อง boda จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในส่วนของ Digital Mater (เครื่องดิจิตอล), Temperature (PT100) เครื่องวัดอุณหภูมิผ่าน RTD Sensor (Resistance Temperature Detector) : ซึ่งก็คือตัวเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ และ Current Transmitter ซึ่งเป็นอุปกรณ์แปลงสัญญาณไฟฟ้า โดยจะควบคุมการทำงานผ่านตัว Remote IO เช่นเดียวกับส่วนของ Chiller Plant Performance

    • Chiller Operation Status : สถานะการทำงานของเครื่องทำความเย็นจะทำงานผ่านอุปกรณ์ที่ชื่อว่า CPMS (Chiller Plant Management System) ซึ่งมีไว้เพื่อความคุมแสดงผลการทำงานระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ โดยสื่อสารผ่าน Modbus RTU/ TCP/IP /BACnet TCP ซึ่งเชื่อต่อกับ Industrial IOT Gateway ผ่านระบบอินเตอร์และตัว Router นั่นเอง

 

บริการ boda ดีอย่างไร?

✔ ช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเครื่องจักรหรือโรงงานอุตสาหกรรมของคุณ : ซึ่งเกิดจากการตรวจสอบและไม่สามารถปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นไม่ทันการณ์ เช่น ระบบไฟฟ้าขัดข้อง หรือระบบปรับอากาศหยุดทำงาน เพราะในบางอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าที่ต้องคุมควบอุณหภูมิ เมื่อระบบประบอากาศทำงานปกติหรือไม่ทำงาน ก็อาจจะส่งผลเสียให้กับผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้

✔ ช่วยลดต้นทุนการจ้างพนักงานหรือช่างที่คอยตรวจสอบประสานงานเครื่องจักรต่างๆ ได้หลายตำแหน่ง : เพราะแค่มีระบบ boda คุณก็สามารถใช้ช่างเทคนิคเพียงคนเดียวที่คอยตรวจสอบดูระบบ boda ก็สามารถดูแลโรงงานทั้งอาคารได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนค่าจ้างพนักงานได้แล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาการมีบุคลากรจำกัดแต่ปริมาณของงานผลิตมากขึ้น ได้อีกด้วย

✔ เมื่อเกิดปัญหาฉุกเฉินกับระบบ boda เรามีทีมคอยให้คำปรึกษา 24 ชั่วโมง

✔ ระบบของ boda ตรวจสอบและวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานและแจ้งเตือนความผิดปกติ ทุกๆ 1 นาที : และทำงานได้ 24 ชั่วโมงใน 7 วัน ซึ่งเราการันตีผลลัพธ์ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำ

✔ ระบบของ boda ติดตั้งและใช้งานได้ภายใน 4 สัปดาห์

✔ บริการ boda จะช่วยให้คุณลดต้นทุนเรื่องการจัดการและซ่อมแซมเครื่องจักรได้ถึง 50%

✔ บริการ boda จะช่วยลดความสูญเสียจากการผลิต ที่มีสาเหตุมากจากความผิดพลาดของเครื่องจักรมีปัญญหาได้ : นำมาซึ่งความพึงพอใจของลูกค้า และเป็นการลดปัญหาความเสียหายที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ

 

และนี่คือประสิทธิภาพของบริการ boda ที่เราคิดว่าน่าจะมาช่วยตอบโจทย์การทำงานของโรงงานอุตสาหกรรมในยุคปัจจุบันนี้ได้เป็นอย่างดี และหากคุณสนใจในบริการนี้สามารถติดต่อขอรายละอียดเพิ่มเติมจากเราได้ที่

บริษัท แม็คเอนเนอยี อีโวลูชั่น จำกัด

Head Office : Executive & Sales Office
32/1 ซอยรามอินทรา 58 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ 10230
Tel : 02-509-3211 (24 Hours Service) Fax : 02-509-3212
E-mail : admin@mcenergy-evo.com