อาคารประหยัดพลังงาน ต้องมีระบบอะไรบ้าง

ทำไมอาคารประหยัดพลังงานถึงจำเป็นกับคนยุคใหม่ เนื่องจากช่วงนี้อิทธิพลของประชากรทั้งโลกหันมาใส่ใจเรื่องธรรมชาติสิ่งแวดล้อม สังเกตได้ว่าแบรนด์ไหนผลิตสินค้าที่เป็นกลุ่มสินค้า Eco Friendly ได้ก็จะได้รับความนิยมเป็นพิเศษ เพื่อให้องค์กรของคุณปรับเข้ากับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน สามารถเป็นบริษัทที่ Eco Friendly ได้เช่นกัน

อาคารประหยัดพลังงาน คืออะไร

คือ ที่เริ่อนุรักษ์พลังงาน ตั้งแต่การออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ทิศทางการรับลม ทิศทางการรับแสงแดด รูปทรงของตัวอาคาร ทิศทางการตั้งอาคารต้องรับแสงแดดในทิศตะวันออกกับทิศตะวันตกให้น้อยที่สุด เพื่อช่วยลดความร้อนที่จะกระทบกับตัวอาคาร จนถึงการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการนำเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ มาใช้เพื่อให้ได้อาคารประหยัดพลังงานมากที่สุด ตัวอย่างดังนี้

การเลือกใช้หลอดไฟ LED

ปัจจุบันประเทศไทยมีการผลิตหลอดไฟ หลายขนาดหลายรูปแบบ มีตั้งแต่คุณภาพต่ำไปยันสูง เทคนิคการเลือกหลอดไฟที่จะช่วยทำให้อาคารสำนักงานของคุณเป็นอาคารประหยัดพลังงาน แต่ต้องบอกก่อนว่านี้เป็นเพียงเทคนิคคร่าวๆ ซึ่งอาจจะตอบโจทย์แต่ละความต้องการไม่เหมือนกัน คุณสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ข้อมูลด้านล่างได้

1.เลือก หลอด LED ที่ใช้ พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่า (W) กินไฟน้อยกว่า
ตัวอย่างเช่น
แบรนด์ A : หลอดไฟ LED T8 18 W ให้ค่าแสงสว่าง ที่ 1,900 ลูเมน
แบรนด์ B : หลอดไฟ LED T8 20 W ให้ค่าแสงสว่าง ที่ 1,600 ลูเมน

ในกรณีนี้ คุณควรเลือกซื้อ หลอดไฟ LED แบรนด์ A เพราะ หลอดไฟ LED แบรนด์ A กินไฟน้อยกว่า ใช้พลังงาน เพียงแค่ 18 W แต่กลับให้แสงสว่างมากกว่า หลอดไฟ LED แบรนด์ B นั่นเอง

2.เลือก หลอดไฟ LED ที่มีระบบการระบายความร้อนที่ดีกว่า ทนทานกว่า
หลอดไฟ LED ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า จะมีการออกแบบ Sink อลูมิเนียม ระบายความร้อน ขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เพื่อให้มีคุณสมบัติการระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ ความร้อนที่ถูกปล่อยออกมาจาก Chip ทำให้ความร้อนไม่สะสม และยืดอายุการใช้งานได้อย่างดี

การเลือกระบบชิลเลอร์ (Chiller)
ระบบชิลเลอร์ คืออะไร เป็นระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ เครื่องทำความเย็นชนิดหนึ่งในระบบทําความเย็น ใช้ในการทำความเย็นของเหลวต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่แล้ว Chiller จะเหมาะสมกับระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า , โรงพยาบาล , สำนักงาน เหมาะสมกับในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่นผลิตน้ำเย็น หรือปรับอุณหภูมิน้ำเย็น เพื่อส่งเข้าไปยังเครื่องจักร

ในส่วนของระบบปรับอากาศ ได้เลือกระบบปรับอากาศ Chilled Beam ซึ่งเป็นระบบปรับอากาศที่เดินท่อน้ำเย็นเข้าไปยังพื้นที่ปรับอากาศเพื่อกระจายความเย็นลงมายังบริเวณคนทำงาน (แทนการใช้ท่อส่งลมเย็นและพัดลมของระบบปรับอากาศที่ใช้กันทั่วไป แต่ยังต้องส่งอากาศแห้งในปริมาณน้อยกว่าระบบเดิม เพื่อการเติมอากาศบริสุทธิ์และลดความชื้น) ช่วยลดพลังงานพัดลมในการกระจายความเย็นลงกว่าร้อยละ 60 และเมื่อรวมกับการออกแบบเปลือกอาคาร และระบบอาคารต่างๆทำให้ลดการใช้พลังงานลงได้กว่าร้อยละ 30 ถ้าเทียบกับอาคารอนุรักษ์พลังงานทั่วไปในปัจจุบัน 

ระบบคูลลิ่งทาวเวอร์(Cooling Tower) คืออะไร

คือ ระบบปรับอากาศในอาคาร ที่ผ่านกระบวนการทำให้น้ำถ่ายเทความร้อนออกจากอาคาร ด้วยหลักการระเหยโดยตัวคูลลิ่งทาวเวอร์จะเป็นตัวที่ฉีดน้ำที่มีความร้อนหรือมีอุณหภูมิสูงจากการทำงานหล่อเย็นให้กระจายตัวเป็นละอองเล็ก ๆ ซึ่งจะตกลงบนแผ่นกั้นละอองน้ำ หากพูดลงไปในมุมที่ลงลึกไปอีก ระบบคูลลิ่งทาวเวอร์ยังจัดหมวดหมู่แยกออกมาได้อีก 3 ประเภท

1. คูลลิ่งทาวเวอร์ แบ่งตามรูปแบบทิศทางการไหลของอากาศ เพื่อแลกเปลี่ยนความร้อน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

• คูลลิ่งทาวเวอร์แบบที่อากาศหรือลมไหลขนานกับน้ำ (Counter Flow) จุดเด่น คือ ราคาคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูง
  
  
• คูลลิ่งทาวเวอร์แบบที่อากาศหรือลมไหลตัดขวางตั้งฉากกับน้ำ (Cross Flow) จุดเด่น คือ จะมีพื้นที่ที่ทำให้อากาศไหลเข้าได้มากกว่า ได้เปรียบแรงต้านลมที่ต่ำ ลดอัตราน้ำกระจายออกและสิ่งอุดตันได้ดี

2. คูลลิ่งทาวเวอร์ แบ่งตามรูปแบบการทำงานของระบบพัดลม สามารถแยกย่อยได้เป็น 3 ประเภท คือ

• Cooling Tower Induced Draft แบบการใช้พัดลมดูดอากาศขึ้นมาผ่านไส้ระบายความร้อน การทำงานถูกออกแบบให้มีอากาศชื้นไหลผ่านพัดลม ในระยะยาวจะทำให้อายุการใช้งานของเครื่องสั้นลง
  
  
• Cooling Tower Forced Draft แบบการใช้พัดลมเป่าอากาศผ่านไส้ระบายความร้อน ต่างจากแบบแรกในส่วนที่อากาศชื้นจะไม่ผ่านตัวชุดพัดลม ทำให้มีอายุการใช้งานยืดยาวนานกว่า
  
  
• Cooling Tower Natural Draft แบบการดูดอากาศไหลตามธรรมชาติ ตามหลักการที่เมื่ออากาศร้อนจะลอยตัวยกสูงขึ้น และทำให้เกิดการไหลของอากาศเย็นเข้ามาแทนที่ เป็นตัวที่ประสิทธิภาพต่ำกับราคาค่อนข้างส่วนทางกัน

3. คูลลิ่งทาวเวอร์ แบ่งตามลักษณะระบบการระบายความร้อน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

• Cooling Tower ระบบเปิด เป็นการทำงานที่น้ำที่ระเหยตัวในการระบายความร้อน จะมีการสัมผัสกับอากาศหรือลมจากภายนอกได้โดยตรง ข้อเสีย : มีโอกาสที่สิ่งสกปรกต่าง ๆ จะปนเปื้อนในน้ำและอากาศเข้ามายังคูลลิ่งทาวเวอร์ได้ ควร หมั่นตรวจสอบและควบคุมคุณภาพน้ำ การเปลี่ยนถ่ายน้ำ และการเลือกใช้ไฟฟ้าหรือสารเคมีช่วยสลายคราบตะกรอน
  
  
• Cooling Tower ระบบปิด เป็นระบบที่ความร้อนของน้ำถ่ายเทผ่านผนังของระบบ ออกไปยังอากาศภายนอก โดยที่น้ำในระบบจะไม่ระเหยและไม่ต้องสัมผัสกับอากาศภายนอกโดยตรง 
  
  ข้อดี : ทำให้น้ำสะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกจากภายนอกเข้ามาทำให้ระบบเกิดการอุดตันหรือเสียหาย ข้อเสีย : ระบบปิดจะมีการติดตั้งขนาดใหญ่และการทำงานที่ซับซ้อนกว่า และราคาสูงกว่า
  
  

นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกลูกเล่นเล็กๆ ในการทำให้อาคารของคุณเป็นอาคารประหยัดพลังงานที่ท่านสมัย ได้แบบแท้จริง เช่นการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอาคารให้เป็น Eco Friendly หรือการหากิจกรรมมาช่วยเสริมก็ได้ แต่หลักๆ แล้วคุณควรวางแผนอาคารชัดเจนและเป็นองค์กรที่จัดการพลังงานแบบยั่งยืนต้นแบบได้อีกด้วย

สุดท้ายนี้ระบบทุกอย่างที่กล่าวมา คุณควรมีผู้ดูแลวางระบบและชี้แนวทางในการออกแบบอาคารพลังงาน ให้เหมือนภาพในหัวคุณมากที่สุดต้องมีผู้เชี่ยวชาญ ทาง บริษัท แม็คเอนเนอยี อีโวลูชั่น จำกัด คือผู้ให้บริการด้านระบบปรับอากาศและระบบประหยัดพลังงานแบบครบวงจร ที่ได้รับความไว้วางใจในการเป็นผู้ดูแลระบบปรับอากาศให้แก่หน่วยงานของทั้งภาครัฐและเอกชนเสมอมา โดยทาง McEnergy เราพร้อมสร้างสรรค์และออกแบบระบบปรับอากาศและระบบประหยัดพลังงานให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานและงบประมาณของลูกค้าทุกท่านอย่างเต็มศักยภาพ ด้วยทีมงานคุณภาพที่มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญงาน และคร่ำหวอดอยู่ในวงการระบบปรับอากาศในอาคารมาอย่างยาวนาน

บริษัท แม็คเอนเนอยี อีโวลูชั่น จำกัด
Tel: 02-509-3211
Email : admin@mcenergy-evo.com